ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5 ตอนนี้ผมจะเขียนเกี่ยวกับการ Shopping ที่ต่างประเทศนั้นดีมากเลยครับในเรื่องการบริการต่างๆ โดยเฉพาะที่ ประเทศอังกฤษ ประเทศอเมริกา และออสเตรเลีย ในการซื้อของตามห้างหรือร้านต่างๆที่ต่างประเทศนั้น เราสามารถขอคืนสินค้าได้โดยไม่มีข้อสงสัยเลยครับ(แทบทุกอย่างนะครับ) ทางพนักงานที่ต่างประเทศเค้าเต็มใจที่จะรับคืนของ ถ้าเราไม่พอใจในสินค้า ส่วนใหญ่จะรับคืนภายใน 14-28 วันหลังจากที่ทำการซื้อสินค้าครับ

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5
ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5

และพี่ไทยเราหลายคนก็ได้ทำการเหนือความคาดหมายครับ (Thailand Only ^^) โดยการซื้อสินค้าพวกเสื้อผ้าและนำไปใส่โดยไม่แกะป้ายราคาออก (ซ่อนไว้ข่างใน) หลังจากใส่ออกไปข้างนอกแล้วก็เอาไปคืนแล้วรับเงินคืน ซึ่งทางร้านส่วนใหญ่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ ถ้าเราไม่ได้ทำเลอะหรือดึงป้ายราคาออกและยังอยู่ในกำหนดการคืนสินค้า แต่ผมว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมกับทางร้านเท่าใดนัก เพราะเราตั้งใจที่จะทำอย่างนั้นมากกว่าที่เราไม่ได้ชอบสินค้าจริงๆ (แต่ก็แล้วแต่ความชอบและความต้องการส่วนบุคคลนะครับไม่ว่ากัน)

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5
ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5

อีกอย่างที่ทางต่างประเทศเค้าแฟร์กับผู้บริโภคมากนั้นคือการติดราคาสินค้าผิด ผมเคยมีประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปเดินซื้อกางเกงที่ร้านแห่งหนึ่งที่อเมริกา ผมตัดสินใจที่จะซื้อกางเกงยีนส์ตัวหนึ่งจากที่ร้านและได้ทำการไปจ่ายเงิน แต่ปรากฎว่าราคาที่โชว์ในชั้นกับราคาที่อยู่ในป้ายโค้ด (Bar code) นั่นแตกต่างกันมากครับ เพราะในชั้นวางกางเกงนั้นโชว์ราคาอยู่ที่ประมาณ $50 แต่พอนำไปคิดเงินที่เคาน์เตอร์ กลับโชว์ราคาที่ $80-90 (จำไม่ได้) ซึ่งผมก็งงมากว่าทำไมมันต่างกันเยอะจัง ตอนแรกก็คิดว่าเป็นราคาที่ไม่รวมภาษี แต่มันก็ไม่ควรจะต่างกันมากขนาดนี้ จึงถามเจ้าหน้าที่ (ด้วยท่าทางกลัวๆ) ว่าราคาที่โชว์ที่ชั้นมันต่างกันกับที่คุณคิดที่เคาน์เตอร์ ทางเจ้าหน้าที่เค้าเลยเดินไปตรวจสอบให้ครับ ปรากฎว่าทางเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเค้าไปติดป้ายราคาผิดชั้นครับทำให้เกิดการสับสน แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่นี่เค้าดีมากครับ เค้าบอกผมเลยว่าเค้าจะคิดผมราคาที่เค้าติดผิดโดยยอมขาดทุน(อาจจะขาดกำไร) ด้วยความเต็มใจเพราะเป็นความผิดของพวกเค้าเองครับ เท่ากับว่าผมได้ของราคาถูกกว่าราคาจริงครับ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ที่ร้านก็รีบเดินไปแกะป้ายราคาที่ชั้นออกอย่างรวดเร็วครับ เห็นไหมครับว่าที่ต่างประเทศเค้าแฟร์กับเรามาก

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5
ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่5

ดังนั้นเราก็ไม่ควรจะไปเอาเปรียบเค้านะครับ และอีกอย่างนะครับการซื้อของที่นี่เป็นสวรรค์อย่างหนึ่งของนักเรียนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศครับ เพราะแทบทุกร้านค้ามักจะให้ส่วนลดกับนักเรียนครับโดยประมาณ 10 % ครับ ซึ่งนักเรียนจะได้ของที่ถูกกว่าคนทั่วไปแล้วยังอาจจะได้ของแถมด้วยนะครับ มาเป็นเด็ก Kaplan กันสิครับ ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษ วัฒนธรรม การดูแลตัวเอง สนุกกับเพื่อนๆทั่วโลก และได้ซื้อของราคาไม่แพงอีกด้วย

แชร์