ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่6

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่6

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่6 วันนี้เราจะเล่าเรื่องราวประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการทำงานที่ต่างประเทศในระหว่างที่ เรียนภาษาอังกฤษ ว่า ดุ เด็ด เผ็ด มันส์ แค่ไหน ต้องเจอและต่อสู้กับอะไรบ้าง เพื่อนร่วมงานเป็นอย่างไร เค้าจ่ายเงินเราเท่าไหร่ เราต้องทำงานอะไร สารพัดจะบรรยายครับ เอาเป็นว่าจะสรุปโดยรวมแบบคร่าวๆให้ดูกันนะครับกับ ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่6

หางานที่ต่างประเทศ

วิธีการหางานทำระหว่างเรียนของนักเรียนภาษาส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นการทำงานในร้านอาหารต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานเสริฟ์ งานครัว หรืองานทำความสะอาด แต่นักเรียนบางคนก็ทำงานตามโรงแรมต่างๆ หรือแม้กระทั่งงานออฟฟิศ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน ส่วนใหญ่วิธีการสมัครงานที่ต่างประเทศ นักเรียนควรจะต้องมี CV ประวัติการทำงานโดยย่อและข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับนักเรียน พยายามเล่าว่าเราทำอะไรได้บ้าง โชว์เค้าไปให้หมดว่าเราทำอะไรเป็น เหมาะสมและควรค่าสำหรับเค้าที่จะจ้างเรา หลังจากนั้นก็รอการสัมภาษณ์งานได้เลย ขั้นตอนการสัมภาษณ์นั้นก็ไม่ได้มากมายอะไรนักขึ้นอยู่กับแต่ละงาน ถ้างานโรงแรมหรืองานออฟฟิศก็อาจจะยากขึ้นมาหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็จะให้เราเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับ CV ของเราให้เค้าฟัง พยายามเป็นตัวของตัวเอง มั่นใจ และยิ้มแย้มเข้าไว้

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่6

ค่าแรงที่ต่างประเทศ

ส่วนใหญ่งานที่เด็กนักเรียนทำจะเป็นงาน Part time ที่จะจ่ายค่าแรงเป็นค่าแรงขั้นต่ำ ที่อังกฤษก็ประมาณ £6 ต่อชั่วโมง ที่ออสเตรเลียก็น่าจะ $10+ ดอลล์ออสเตรเลียต่อชั่วโมงขึ้นไป ส่วนที่อเมริกาก็อยู่ที่ประมาณ $10+ ต่อชั่วโมงเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับนักเรียน แต่ร้านอาการไทยหลายแห่งจะทำการจ่ายแบบเหมาจ่ายให้นักเรียน เช่น ทำงานตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนร้านปิดประมาณ 11.30-12.00 (ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าจะลุกกี่โมง) จ่าย £25-30 ต่อรอบเย็น ไม่รวมทิป ซึ่งอาจจะเป็นการเอาเปรียบนักเรียนอยู่บ้างแต่ก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งถ้าเลือกได้อยากให้เพื่อนๆคนไทยลองไปหางานตามร้านอาหารฝรั่งแทนดีกว่า นอกจากเค้าจะจ่ายเราเป็น ชั่วโมงที่มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำแล้ว เรายังจะได้ฝึกภาษาได้อีกด้วยครับ เพราะตัวผมเองก็เคยทำงานที่ร้านอาการญี่ปุ่น เมื่อตอนที่เป็นนักเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งรู้เลยว่าการทำงานกับเพื่อนๆชาวต่างชาติ นอกจากจะได้เงินที่ดีกว่าแล้วยังได้พัฒนาภาษาอังกฤษได้อีกด้วยครับ เพียงแค่เรากล้าที่จะไปสมัครและมั่นใจในตัวเอง เพราะเพื่อนๆชาวต่างชาติหลายคนก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษเท่าใดนักแต่เราก็ไปเรียนรู้พร้อมๆกันในตอนทำงาน

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่6

ระว่างการทำงาน

ที่ต่างประเทศนั้น การทำงานทุกนาทีคือความคุ้มค่าของนายจ้าง นักเรียนอย่าหวังว่าจะได้ยืนชิวล์ คุยกับเพื่อนๆหรือแขก เพราะเจ้านายเค้าคาดหวังให้เราทำงานทุกนาทีอย่างคุ้มค่าจ้าง ว่างเป็นไม่ได้ครับ ล้างนู้ เช็ดนี่ กวาดนู้น ถูนี่ แต่ก็เป็นเรื่องปกติครับ เพราะเค้าจ่ายเงินจ้างเรามาทำงานนิหน่า ไม่ได้จ่ายเพื่อมายืนว่างเล่น ^^ ลูกค้าคือพระเจ้าใช้ได้กับที่ต่างประเทศจริงๆครับ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าลูกค้าหงายคนที่นี่เรื่องมากและคาดหวังสูงครับ เจอมาหลายรูปแบบครับ ทั้งทานอาหารเกือบหมดจานแล้วบอกว่าไม่อร่อย เราก็ต้องยกเลิกอาหารนั้นออกจากบิล ทานจนเหลือคำสุดท้ายแล้วเจอเส้นผม ก็ต้องยกเลิกอาหารออกจากบิลแถมส่วนลดที่เหลือให้อีก ทานอาหารราคาถูกที่สุดแล้วขอนู้นขอนี่ฟรี ทานอาหารแล้วหนีไม่ยอมจ่าย ขโมยปลอมมาเป็นลูกค้าขโมยของในร้าน และอื่นๆอีกมากมายครับ เรียกได้ว่าเป็นสีสันในชีวิตเลย ดังนั้นเรื่องความเหนื่อยไม่ต้องห่วงครับ เหนื่อยแน่นอนครับ แต่ก็คุ้มค่ากับประสบการณ์และเงินที่ได้รับ ทำให้เราโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น และเข้าใจชีวิตตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น

ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่6

เรียนและทำงาน

นักเรียนภาษาส่วนใหญ่จะต้องเรียนตอนเช้าว่างตอนเย็น ซึ่งเวลาตอนเย็นก็จะเป็นเวลาทองในการทำงานเก็บเงิน ซึ่งนักเรียนจะต้องแบ่งเวลาให้ถูกและไม่ทำงานมากจนเกินไปแล้วเสียการเรียน เพราะจุดประสงค์หลักของเราคือการมาเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช่มาทำงานเก็บเงิน ซึ้งถ้าเราเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้นเท่าไหร่ แน่นอนครับโอกาสในการหางานที่ดีกว่านั้นก็มากยิ่งขึ้นด้วย ขอให้นักเรียนทุกคนต้องใจอดทนเรียนให้ดีที่สุด และทำงานบ้างเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายทางบ้านเท่านั้นก็ดีมากแล้วครับ

ยังไงก็ตามถ้าเพื่อนๆคนไหนมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องการเรียนและทำงานที่ต่างประเทศ ชีวิตเด็กนอกบทเรียนที่6 หรือมีข้อมูลแลกเปลี่ยนอะไรที่อยากจะเล่าสู่กันฟังก็สามารถแบ่งบันกันได้นะครับ

แชร์