เรียนต่ออเมริกา
เรียนต่ออเมริกา
ระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา
ก่อนที่เพื่อนๆจะตัดสินใจลง เรียนต่ออเมริกา เพื่อนๆควรจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับระบบการศึกษาของประเทศนั้นๆให้ดีเสียก่อน รวมทั้งระยะเวลาการเรียน วันที่เริ่มเรียน หรือแม้กระทั่งวิชาที่ต้องเรียน
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในสหรัฐอเมริกา
- ตั้งแต่ปีที่ 9 –12 โดยทั่วไปแล้วเด็กจะมีอายุ 14/15 – 17/18 ปี
- ภายหลังจบการศึกษาชั้นปีที่ 12 นักเรียนจะได้รับประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
- นักเรียนที่ไม่ได้รับประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอาจเข้าทดสอบ General Education Development (GED) ซึ่งเป็นประกาศนียบัตรความสามารถทางด้านวิชาการในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
การศึกษาภายหลังระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในสหรัฐอเมริกา
เรียนต่ออเมริกา นักศึกษาจะต้องได้รับประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรความสามารถทางด้านวิชาการในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (GED) ก่อนที่จะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา นักศึกษาอาจจะเลือกเรียน 4 ปี เพื่อที่จะได้คุณวุฒิปริญญาตรี หรือเรียนเพียง 2 ปีเพื่อที่จะได้คุณวุฒิอนุปริญญาตรี
การศึกษาระดับอนุปริญญาตรี (Associate Degree)
เรียนต่ออเมริกา การศึกษาระดับอนุปริญญาตรีอาจเป็นหลักสูตรโอนย้ายที่เทียบเท่ากับหลักสูตรปริญญาตรีในช่วงสองปีแรก หรือสองปีสุดท้าย ซึ่งเตรียมพร้อมนักศึกษาสำหรับอาชีพใดอาชีพหนึ่งโดยเฉพาะ
- หลักสูตรสองปีที่วิทยาลัยชุมชนหรือวิทยาลัยเอกชน
- ประเภทของคุณวุฒิ: อนุปริญญาตรีด้านศิลปศาสตร์ (Associate of Arts: AA) หรืออนุปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ (Associate of Science: AS)
- นักศึกษาสามารถที่จะโอนย้ายไปศึกษาต่อได้ที่วิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตร 4 ปี
วิทยาลัยประจำท้องถิ่น (Community College) ซึ่งอาจเป็นของรัฐหรือเอกชน คือสถาบันที่ตั้งอยู่ในชุมชน และยังเป็นที่รู้จักในนามของวิทยาลัยประจำเขต (County College) วิทยาลัยทั่วไป (Junior College) วิทยาลัยเทคโนโลยี (Technology College) หรือวิทยาลัยประจำเมือง (City College)
การศึกษาระดับปริญญาตรี
การศึกษาระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกามีความยืดหยุ่นสูง โดยนักศึกษาสามารถเลือกสาขาได้อย่างหลากหลาย
- ใช้ระยะเวลาศึกษา 4 ปีในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยจะใช้คะแนนสอบ SAT หรือ ACT เป็นเกณฑ์หนึ่งในการพิจารณารับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อ
- โดยทั่วไปแล้วการศึกษาระดับปริญญาตรีจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะแรกจะเป็นการเรียนวิชาพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วยวิชาหลักๆ เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์กายภาพและสังคมศาสตร์ ระยะที่สองจะให้ความสำคัญกับวิชาที่นักศึกษาเลือกเรียน หรือที่เรียกว่าวิชาเอก
- ประเภทของปริญญาตรี ได้แก่ ศิลปศาสตร์บัณฑิต (Bachelor of Arts: BA), วิทยาศาสตร์บัณฑิต (Bachelor of Science: BS) และอื่นๆ
- นักศึกษาจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเมื่อเก็บหน่วยกิตได้ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด (โดยปกติแล้ววิชาหนึ่งจะมี 3-4 หน่วยกิต) และสอบผ่านวิชาบังคับในสาขาวิชาเอก
สหรัฐอเมริกามีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชน ในขณะที่วิทยาลัยของรัฐได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล วิทยาลัยเอกชนก็ดำเนินงานด้วยเงินทุนของเอกชนและมีแนวโน้มที่จะมีขนาดเล็กกว่า ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยก็คือวิทยาลัยมีแนวโน้มที่จะมีขนาดเล็กกว่ามหาวิทยาลัย และเปิดสอนเฉพาะหลักสูตรระดับปริญญาตรี ในขณะที่มหาวิทยาลัยจะเปิดสอนหลักสูตรปริญญาโท - เอกด้วย
เตรียมความพร้อม เรียนต่ออเมริกา มหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยกับ Kaplan International Colleges ด้วยหลักสูตร TOEFL และภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ เพื่อคะแนนสอบ TOEFL ® ที่ดี ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรเตรียมความพร้อมเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของเรา (Undergraduate Pathways Program) เพื่อศึกษาต่อโดยตรงที่ Northeastern University ซึ่งมีสาขาวิชาให้เลือกมากมาย ด้วยเกณฑ์การรับเข้าศึกษา จำนวนหน่วยกิต และเงื่อนไขของการตอบรับเข้าศึกษาที่น้อยกว่าที่อื่น หลักสูตรนี้จึงอาจเป็นหลักสูตรหนึ่งที่สามารถประกันการเข้าศึกษาต่อซึ่งคุณกำลังมองหาอยู่
การศึกษาภายหลังระดับปริญญาโท – เอก ในสหรัฐอเมริกา
นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วสามารถที่จะศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอก ซึ่งรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า (PhD.) ได้อย่างต่อเนื่อง การศึกษาภายหลังระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกาจะเป็นการศึกษาวิชาเฉพาะที่เข้มข้นกว่าหลักสูตรปริญญาตรี และถือว่านักศึกษาจะต้องมีความรู้พื้นฐานในสาขาวิชาที่เลือกเรียนอยู่แล้ว
การศึกษาระดับปริญญาโท
เรียนต่ออเมริกา การศึกษาระดับปริญญาโท ไม่ว่าจะเป็นสายวิชาการหรืออาชีพ นักศึกษาจะได้รับความรู้เพิ่มเติมและการฝึกอบรมในสาขาวิชาเฉพาะ หลักสูตรปริญญาโทจะมีให้เลือกหลากหลายสาขา
- โดยทั่วไปแล้วการศึกษาระดับปริญญาโทจะใช้เวลา 2 ปี ในสาขาวิชาเฉพาะ
- หลักสูตรปริญญาโทสายวิชาการ ได้แก่ ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (Master of Arts: MA) และวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (Master of Science: MS)
- หลักสูตรปริญญาโทสายอาชีพ ได้แก่ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (Master of Business Administration: MA), ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต (Master of Education: MeD), สังคมสงเคราะห์ศาสตร์มหาบัณฑิต (Master of Social Work: MSW) และอื่นๆ
- มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้คะแนนสอบ Graduate Record Examination (GRE) เป็นเกณฑ์หนึ่งในการพิจารณารับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อ
- สำหรับหลักสูตร MBA มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้คะแนนสอบ Graduate Management Admissions Test (GMAT) เป็นเกณฑ์หนึ่งในการพิจารณารับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อ
ในสหรัฐอเมริกา หลักสูตรนิติศาสตร์และแพทยศาสตร์จะเปิดสอนในระดับปริญญาโทเท่านั้น โดยนักศึกษาจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีของทั้งสองสาขามาก่อนที่จะสมัครเข้าศึกษาต่อ
สถานศึกษาในสหรัฐอเมริกาใช้ภาคการศึกษาหลายแบบแตกต่างกันออกไปขึ้นกับ ความต้องการของสถานศึกษา และความนิยมของท้องถิ่น ได้แก่
ระบบ Semesterแบ่งเป็น 2 Semesterๆ ละ 16 - 18 สัปดาห์ และอาจมี 1 หรือ 2 summer session
1.Fall Semester เปิดประมาณกันยายนถึงกลางธันวาคม
2.Spring Semester เปิดประมาณมกราคมถึงกลางเมษายน
3.Summer Semester เปิดประมาณกลางพฤษภาคมถึงสิงหาคม
ระบบ Quarter แบ่งเป็น 4 เทอม ๆ ละ 10 สัปดาห์
1.First เปิดประมาณกันยายนถึงธันวาคม
2.Second เปิดประมาณมกราคมถึงเมษายน
3.Third เปิดประมาณพฤษภาคมถึงสิงหาคม
ระบบ 4-1-4 แบ่งภาคเรียนเป็น 2 เทอม (Semester) เทอมละ 15 สัปดาห์ คั่นด้วยเทอมสั้น ๆ เรียกว่า Mini-term หรือ Interim เทอมสั้นนี้
มีระยะเวลาเรียน 1 เดือน
1.Fall เปิดประมาณกันยายนถึงธันวาคม
2.Mini-term หรือ Interim เปิดประมาณมกราคม ( 1 เดือน )
3.Spring เปิดประมาณกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม
ตอนนี้เพื่อนก็พอที่จะทราบข้อมูลเรียนต่อเมริกากันบ้างแล้วไม่มากก็น้อย ยังไงถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรียนต่ออเมริกา เพื่อนสามารถติดต่อทีมงานเราได้ ทางเรายินดีให้คำแนะนำและคำปรึกษาที่ดีกับทุกๆคนครับ